เมื่อใบขับขี่หมดอายุ การต่ออายุใบขับขี่เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลยล่ะครับ เพราะหากคุณขับรถโดยใช้ใบขับขี่ที่หมดอายุ คุณอาจถูกปรับและมีปัญหาด้านกฎหมาย แถมยังอาจจะเครมประกันไม่ได้ด้วยนะครับ ดังนั้น การรู้ขั้นตอนและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต่ออายุใบขับขี่จะช่วยให้คุณดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นครับ ใครที่บัตรหมดอายุแล้ว ต้องอ่านครับ


ประเภทของใบขับขี่และเงื่อนไขการต่ออายุ

ใบขับขี่ชั่วคราว (2 ปี):

  • สามารถต่อเป็นใบขับขี่แบบ 5 ปีได้เมื่อใบขับขี่ใกล้หมดอายุ หรือหมดอายุไม่เกิน 1 ปี

ใบขับขี่ 5 ปี:

  • ต่อเป็นใบขับขี่ 5 ปีได้อีกครั้งโดยขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่หมดอายุ:
  • หมดอายุไม่เกิน 1 ปี: ต่อได้ตามปกติ
  • หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี: ต้องผ่านการทดสอบการทำอบรมของกรมการขนส่งทางบก จำนวน 2 ชั่วโมง สามารถพิมพ์หาได้ที่ : อบรมออนไลน์ต่อใบขับขี่ ของ DLT e-Learning ครับ
  • หมดอายุเกิน 3 ปี: ต้องสอบข้อเขียนและสอบปฏิบัติใหม่เหมือนการขอใบขับขี่ครั้งแรก

เอกสารที่ต้องเตรียม

การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนก่อนเดินทางไปยังสำนักงานขนส่งจะช่วยลดเวลาและความยุ่งยาก โดยเอกสารที่ต้องใช้ได้แก่:

  • บัตรประชาชน (ตัวจริง)
  • ใบขับขี่เดิม (ตัวจริง)
  • ใบรับรองแพทย์ (สำหรับกรณีใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี)
  • ใบรับรองแพทย์ต้องออกโดยแพทย์ที่ได้รับอนุญาต และมีอายุไม่เกิน 1 เดือน
  • หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี)


ขั้นตอนการต่ออายุใบขับขี่

การต่ออายุใบขับขี่ในปัจจุบันสะดวกขึ้นมาก เนื่องจากสามารถจองคิวล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์หรือแอปพลิเคชันได้ โดยขั้นตอนหลัก ๆ มีดังนี้:

จองคิวล่วงหน้า:

  • ใช้แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือจองผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก เพื่อเลือกวันและเวลาที่สะดวก
  • หากไม่ได้จองล่วงหน้า คุณสามารถไปติดต่อที่สำนักงานขนส่ง แต่ควรเตรียมตัวสำหรับการรอคิว บางขนส่งอาจจะเปิดให้รอบของคน Walk-in เริ่มตั้งแต่ 16.00 – 17.00 และปิดทำการ การจองคิวไปล่วงหน้าจะดีที่สุดครับ

เข้าสำนักงานขนส่ง:

  • เดินทางไปยังสำนักงานขนส่งที่รับผิดชอบในพื้นที่ของคุณ พร้อมนำเอกสารที่เตรียมไว้ไปด้วย เพราะถ้าเอกสารไม่ครบจะไม่สามารถต่อใบขับขี่ได้ และอาจจะต้องจองคิวใหม่เลย

ชำระค่าธรรมเนียม:

  • ค่าใช้จ่ายสำหรับการต่ออายุใบขับขี่ 5 ปี (รวมค่าบัตรพลาสติก) อยู่ที่ประมาณ 505 บาท

ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย:

  • การทดสอบนี้มีเพื่อประเมินความพร้อมของร่างกายในการขับขี่ โดยจะมีการตรวจดังนี้:
  • ทดสอบตาบอดสี (แยกสีแดง เขียว และเหลือง)
  • ทดสอบสายตาทางลึก
  • ทดสอบปฏิกิริยาเท้าในการเหยียบเบรก
  • สำหรับการทดสอบมีไว้สำหรับคนที่บัตรหมดอายุเกิน 3 ปีเท่านั้น

อบรม:

  • สำหรับใบขับขี่ที่หมดอายุไม่เกิน 1 ปี ต้องเข้ารับการอบรมประมาณ 1 ชั่วโมง ผ่านเว็บไซต์ DLT e-Learning
  • หากหมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ต้องอบรมเพิ่มเติมประมาณ 2 ชั่วโมง ผ่านเว็บไซต์ DLT e-Learning
  • สำหรับใครที่หมดอายุเกิน 3 ปีจะต้องอบรมเหมือนการทำใบขับขี่ครั้งแรก คือ 1 วัน

รับบัตรใบขับขี่ใหม่:

  • เมื่อผ่านทุกขั้นตอน คุณจะได้รับบัตรใบขับขี่ใหม่ ซึ่งสามารถใช้งานได้ทันที

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • อย่าปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุเกินกำหนด: การต่ออายุใบขับขี่ทันทีที่หมดอายุหรือก่อนหมดอายุจะช่วยลดความยุ่งยากในขั้นตอนต่าง ๆ เช่น การสอบใหม่ การจองคิว หรือค่าปรับ
  • ตรวจสอบวันหมดอายุล่วงหน้า: ใบขับขี่ 5 ปี สามารถต่ออายุได้ล่วงหน้าไม่เกิน 6 เดือนก่อนวันหมดอายุ การมาต่อล่วงหน้าก็สามารถทำได้ทันทีโดยไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากเหมือนเวลาต่อหลังบัตรหมดอายุ
  • พกเอกสารมาให้ครบถ้วน: การเตรียมเอกสารให้พร้อมช่วยลดความล่าช้าในการดำเนินการ และไม่เสียเวลาในการจองคิวใหม่
  • ตรวจสุขภาพร่างกาย: โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาด้านสายตาหรือโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์และเตรียมใบรับรองแพทย์ให้พร้อม


สรุป

การต่ออายุใบขับขี่ไม่ใช่เรื่องซับซ้อน หากคุณเตรียมตัวให้พร้อมทั้งด้านเอกสาร การจองคิว และการปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด อย่าลืมว่าใบขับขี่เป็นเอกสารสำคัญที่แสดงถึงความสามารถและความรับผิดชอบในการขับขี่ การดูแลให้ใบขับขี่ของคุณถูกต้องและไม่หมดอายุ จึงเป็นสิ่งสำคัญทั้งต่อความปลอดภัยของตัวคุณเองและผู้ใช้ถนนคนอื่น ๆ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถติดต่อกรมการขนส่งทางบกได้ตลอดเวลาครับ

กรมการขนส่งทางบก

1584